เมนู

อุทยปัญหาที่ 13


ว่าด้วยเรื่องวิญญาณดับ


[437] อุพยมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าพระองค์มีความต้องการด้วยปัญหา
จึงมาเฝ้าพระองค์ผู้เพ่งฌานผู้ปราศจากธุลี
ทรงนั่งโดยปรกติ ทรงทำกิจเสร็จแล้ว ไม่มี
อาสวะ ทรงถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง ขอ
พระองค์จงตรัสบอกอัญญาวิโมกข์ สำหรับ
ทำลายอวิชชาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนอุทยะ
เรากล่าวธรรมเป็นเครื่องละความพอ
ใจในกาม และโทมนัสทั้งสองอย่าง เป็น
เครื่องบรรเทาความง่วงเหงา เป็นเครื่องห้าม
ความรำคาญ บริสุทธิ์ดี เพราะอุเบกขาและ
สติ มีความตรึกถึงธรรมแล่นไปในเบื้องหน้า
ว่าเป็นอัญญาวิโมกข์ สำหรับทำลายอวิชชา.
อุ. โลกมีธรรมอะไรประกอบไว้
ธรรมชาติอะไรเป็นเครื่องเที่ยวไป ของโลก
นั้น เพราะละธรรมอะไรได้เด็ดขาด ท่านจึง
กล่าวว่า นิพพาน.

พ. โลกมีความเพลิดเพลินประกอบ
ไว้ ความตรึกไปต่าง ๆ เป็นเครื่องเที่ยวไป
ของโลกนั้น เพราะละตัณหาได้เด็ดขาด
ท่านจึงกล่าวว่า นิพพาน.
อุ. เมื่อบุคคลมีสติอย่างไร เที่ยวไป
อยู่ วิญญาณจึงจะดับ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
มาเฝ้าเพื่อทูลถามพระองค์ ข้าพระองค์
ทั้งหลาย ขอฟังพระดำรัสของพระองค์.
พ. เมื่อบุคคลไม่เพลิดเพลินเวทนา
ทั้งภายในและภายนอก มีสติอย่างนี้เที่ยว
ไปอยู่ วิญญาณจึงจะดับ.

จบอุทยมาณวกปัญหาที่ 13

อรรถกถาอุทยสูตร1ที่ 13


อุทยสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า ฌายี ผู้เพ่งฌาน ดังนี้.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อญฺญํ วิโมกฺขํ อัญญาวิโมกข์นี้ ได้แก่
อุทยมาณพทูลถามถึงวิโมกข์ อันเพ่งถึงปุญญานุภาพ.
ลำดับนั้น เพราะอุทยมาณพเป็นผู้ได้ฌานที่สี่ ฉะนั้นพระผู้มีพระภาค-
เจ้า เมื่อจะทรงแสดงอัญญาวิโมกข์ คือธรรมเป็นเครื่องพ้นที่ควรรู้ทั่วถึง โดย
ประการต่าง ๆ ด้วยอำนาจฌาน ที่อุทยมณพได้แล้ว จึงตรัสคาถาสองคาถา.
1. บาลีเป็น อุทยปัญหา.